ความรู้ไม่มี…ถูกตีตรวน

“ความยากจนแร้นแค้นไม่เข้าใครออกใคร แต่ถ้าเจอกับตัวก็ต้องดิ้นรนให้อยู่รอดทุกวิถีทาง”

ความรู้ไม่มี…ถูกตีตรวน

ชีวิตที่แร้นแค้นทำให้คนต้องดิ้นรน…

ชายสูงวัย ใจทำงาน “ลุงยู” อายุ 54 ปี จาก 3 จังหวัดชายแดนใต้ มารับจ้างทำงานก่อสร้างในประเทศมาเลเซีย คุณลุงยูแต่งงานมีลูก 3 คนที่ประเทศไทย ด้วยฐานะทางบ้านที่แร้นแค้นและคนในหมู่บ้านก็ชักชวนมาเสี่ยงดวงหางานทำที่ประเทศมาเลเซีย ลุงยูเข้าออกมาเลเซียตลอดระยะเวลาหลายปี ทำงานแบบไม่มีใบอนุญาตทำงาน และไม่เคยต่อบัตรประชาชนหรือทำพาสปอร์ต ใช้แค่บัตรผ่านแดนชั่วคราวมาโดยตลอด

โชคก็ไม่ได้เข้าข้างเสมอไป

ด้วยนโยบายการกวาดล้างแรงงานผิดกฎหมาย ทำให้ลุงยูโดนจับคาแคมป์คนงานก่อสร้าง ไม่มีโอกาสแม้แต่จะเก็บกระเป๋าหรือเอกสารสำคัญต่าง ๆ ลุงยูถูกตัดสินให้จำคุกเป็นเวลา 3 เดือน ระหว่างนี้อาสาสมัครได้เข้าเยี่ยม ผู้ต้องขังไทยเป็นประจำทุกเดือน ทำให้เราได้สัมภาษณ์คุณลุงยู และให้ลุงยูเขียนจดหมายกลับไปหาญาติ
ที่ประเทศไทย ลุงยูเขียนหนังสือไทยไม่ค่อยได้ และสายตาไม่ค่อยดี ทำให้ลุงยูเขียนชื่อและสะกดชื่อตัวเองผิดทำให้อาสาสมัครและสถานทูตไทยตรวจสอบฐานทะเบียนราษฎรไม่เจอ จากเวลา 3 เดือน ผ่านมาเป็นเวลา
กว่า 1 ปี ทำให้อาสาสมัครเจอกับลุงยูบ่อยครั้งในสถานกักกัน

ปฏิบัติการค้นหาญาติ

เราก็สงสัยในเรื่องนี้มาก ว่าทำไมเวลาผ่านไปนานขนาดนี้แกถึงไม่ได้ออกจากคุกสักที เราเลยตรวจสอบกับทาง อิเมรเกรชั่นของมาเลเซีย ทำให้ทราบว่า กงสุลไทยไม่สามารถออกเอกสาร CI หรือใบสำคัญประจำตัวให้ไม่ได้ เพราะข้อมูลที่ลุงยูให้ ชื่อ นามสกุล ไม่ถูกต้อง อ้าว! ลุงยู ติดคุกจนผมเปลี่ยนสีเลย เอาไงล่ะทีนี้เราไม่อยากเห็นลุงยูต้องอยู่ในคุกอีกต่อไป จึงเริ่มต้นปฏิบัติการค้นหาญาติและประวัติลุงยู เราให้คนไทยที่ได้ออกจากคุก
ไปก่อนที่อยู่หมู่บ้านเดียวกับลุงยู (ตามคำกล่าวอ้าง) ช่วยติดต่อผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน นายอำเภอ นายทะเบียนและเจ้าหน้าที่สถานทูตไทย ก็ช่วยตามหาญาติลุงยูตลอดระยะเวลาหลายสัปดาห์

และแล้วก็เจอ?

ผลปรากฏว่าไม่มีชื่อในทะเบียนราษฎร ความหวังเราเริ่มริบหรี่ลง…แต่ในที่สุดฟ้าก็มีตา ทีมงานอาสาสมัครได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่สถานทูตไทยว่า สามารถค้นหาประวัติและญาติของคุณลุงยูเจอแล้ว จากการตามหาด้วยรูปถ่ายและให้คนในชุมชนช่วยกัน “ติดจนผมหงอก ฟันก็หัก ได้ออกไปหาครอบครัวแล้วนะลุงยู” เราได้นำข่าวดีไปแจ้งคุณลุง และทางอาสาสมัครได้นำเอกสารพร้อมมอบเงินให้ติดตัวไว้ใช้เดินทางกลับไทยจำนวนหนึ่ง

…น้ำตาลูกผู้ชายไหลลงอาบแก้มอย่างดีใจ…

คุณลุงแอบบอกอย่างติดตลกว่า เป็นเด็กต้องตั้งใจเรียนหนังสือ อย่าเขียนชื่อผิดเหมือนลุง

…เขียนชื่อผิด ชีวิตเปลี่ยน…….

ขอขอบคุณ

อาสาสมัคร กรุงกัวลาลัมเปอร์

อาสาสมัครรัฐเซอรัมบัน

เจ้าหน้าที่สถานทูตไทยและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุก ๆ ท่าน

รูปประกอบ: www.freepik.com